วันพุธที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2557

กลุ้มใจหน้าแก่ก่อนวัย! มาอ่านที่นี่กันค่ะ



สาว 30+ สร้างคอลลาเจนและอิลาสตินจะลดลง ปัจจัยภายนอกรุมเร้า ริ้วรอยเริ่มปรากฎ และเด่นชัดขึ้นหากไม่ดูแล
Checklist 7 นิสัยของสาวๆพาหน้าตาล้ำอายุ
  1. สาวช่างสงสัย – การขมวดคิ้วทำให้เกิดริ้วรอยบริเวณหน้าผากได้เร็วขึ้น
  2. สาวยิ้มเก่ง –การยิ้มมากๆ อารมณ์ดีเกินกว่าเหตุ อาจทำให้รอยเท้าคุณกามาเยือนได้แม้อายุยังน้อย 
  3. สาวกล้าท้าแดด– แสงแดดมีรังสีอัลตราไวโอเลต ส่งผลให้ผิวเสื่อมเร็วก่อนวัย 
  4. สาวเจ้าอารมณ์ – ความเครียดจะไปกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนต่างๆ ซึ่งผลต่อขบวนการทำงานในร่างกายทำให้ขาดความสมดุล 
  5. สาวรมควัน – บุหรี่มีสารทำให้ผิวพรรณดูหยาบกร้านมากขึ้น ทำให้หน้าแก่โทรมก่อนวัย
  6. สาวดื่มน้ำน้อย – น้ำเป็นองค์ประกอบสำคัญของเซลล์และเนื้อเยื่อในร่างกาย การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย
    ผิวหนังไม่เหี่ยวง่าย
  7. สาวนอนดึก – ควรเข้านอนก่อน 5 ทุ่ม เพราะช่วงเวลา 5 ทุ่มถึง ตี 4 เป็นช่วงที่ร่างกายซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ

อย่าให้ริ้วรอยเป็นตัวหลอกอายุคุณ 
  • ริ้วรอยเกิดได้อย่างไร พอเข้าสู่เลข 3 สาวๆหลายคนเริ่มถอนหายใจกับริ้วรอยที่มาเยือน เพราะเมื่ออายุมากขึ้นความสามารถในการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินจะลดลง ขณะเดียวกันยังถูกทำลายมากขึ้นจากปัจจัยภายในและภายนอก ปัจจัยภายในที่สำคัญอันได้แก่ ความเครียด ซึ่งมีผลต่อระบบฮอร์โมนและระบบการทำงานอื่นๆของร่างกาย ยกตัวอย่างเช่น ระบบเผาผลาญ (metabolism) ระบบย่อยอาหารและระบบภูมิคุ้มกัน สำหรับปัจจัยภายนอก ได้แก่ แสงแดด มลพิษต่างๆ รวมถึงการใช้เครื่องสำอางที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิว ปัจจัยที่กล่าวมานี้ส่งผลทำให้ปริมาณและคุณภาพของคอลลาเจนและอิลาสตินลดลง ก่อให้เกิดริ้วรอยขึ้นน้อยๆ และเด่นชัดมากขึ้นเรื่อยๆ หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง 
  • สาววัย 20 ต้นๆก็มีริ้วรอยได้!!! ส่วนใหญ่เป็นริ้วรอยที่ เกิดจากการแสดงออกทางสีหน้า เช่น ยิ้ม ขมวดคิ้ว เป็นประจำ การแสดงออกทางสีหน้าเกิดจากกล้ามเนื้อเล็กๆบนใบหน้าหดตัว เมื่อหดตัวบ่อยๆเข้า ก็จะเกิดเป็นริ้วรอยที่ถาวรได้ อย่างไรก็ตามการยิ้มให้กันเป็นสิ่งสวยงาม และทำให้จิตใจแจ่มใส  การรักษาจึงไม่ใช่การหยุดยิ้ม หากแต่เป็นการดูแลรักษาอย่างถูกวิธีซึ่งจะกล่าวถึงต่อไป 
  • ความหย่อนคล้อย แพ็คเกจคู่ของริ้วรอย เมื่อคอลลาเจนและอิลา สตินลดลงมากเรื่อยๆ จนอ่อนกำลังที่จะต้านทานแรงโน้มถ่วงของโลก จะส่งผลให้ผิวหนังของเราเกิดความหย่อนคล้อย ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับบางคนอาจจะดูหน้าตอบ ซูบซีด แลดูเหนื่อยล้ากว่าความเป็นจริงได้ เนื่องจากปริมาณไขมันใต้ผิวหนังมีจำนวนลดลง

นวัตกรรมปราบริ้วรอยให้อยู่หมัด 
การรักษาริ้วรอยให้ได้ประสิทธิภาพต้องดูประเภทของริ้วรอย ร่วมกับสาเหตุของการเกิดเพื่อประสิทธิภาพการรักษาที่สมบูรณ์  ภายใต้การดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะนวัตกรรมแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและเน้นความเชี่ยวชาญทางด้านเทคนิคที่ แตกต่างกัน 
  1. การฉีดโบทูลินั่มท็อกซิน  เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงออกทางสีหน้า โดยการฉีดสารโบทูลินั่มท็อกซินจะช่วยให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อเล็กๆบน ใบหน้า ทำให้ริ้วรอยลดลง แลดูเป็นธรรมชาติ
    จุดเด่น  เห็นผลประมาณหนึ่งสัปดาห์ภายหลังการฉีด ผลการรักษาจะอยู่ได้นาน 3-6 เดือนหลังการฉีด 1 ครั้ง
    Expert’s Tip : เทคนิคการฉีดโบทูลินั่มท็อกซินให้ดูดี คือ ฉีดแล้วยังดูเป็นธรรมชาติ ยังสามารถแสดงสีหน้าได้บ้าง (partial muscle contraction)  นอกจากนี้ยังมีเทคนิคการฉีดที่เรียกว่า Superficial Lifting  เพื่อช่วยให้กรอบหน้าชัดเจนขึ้น ปรับกระชับรูปหน้า ทำให้หน้าดูเรียวสวย 
  2. การฉีดฟิลเลอร์ด้วยสารไฮยาลูโรนิคเอซิด  เหมาะสำหรับ ผู้ที่ปัญหาริ้วรอยร่องลึกหรือริ้วรอยถาวร แก้มตอบ ทำให้หน้าดูเหนื่อยล้า หรือผู้ที่มีปัญหาโครงสร้างที่อยากจะปรับรูปหน้าให้ดูเอิบอิ่มแลดูอ่อนเยาว์
    จุดเด่น  เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังการฉีดเพียง 1 ครั้ง และคงอยู่นานกว่า 8-12 เดือน โดยไม่ต้องพักฟื้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ น่าพึงพอใจและคงอยู่ยาวนานขึ้น สามารถทำการฉีดซ้ำได้ 2-3 ครั้งต่อปี
    Expert’s Tip :  ปัจจุบันฟิลเล่อร์มีหลายประเภท นอกจากจะใช้ฟิลเล่อร์เพื่อเติมเต็มในจุดที่ต้องการแล้ว ยังสามารถใช้เพื่อช่วยปรับรูปหน้าและยกกระชับใบหน้าได้ด้วย ทั้งนี้การฉีดทุกประเภทควรอยู่ภายใต้การรักษาของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น นอกจากในเรื่องความปลอดภัยแล้ว ความสวยงามเป็นวัตถุประสงค์หลักของคนไข้ การรักษาจึงต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ร่วมกัน เพื่อออกแบบความงามให้เหมาะสมแต่ละบุคค แลดูสวยเป็นธรรมชาติในแบบเฉพาะบุคคล
    สิ่งที่อาจพบได้หลังการฉีดโบท็อกซ์และฟิลเล่อร์ อาจจะมีรอยฟกช้ำ ที่เกิดจากการฉีดโดยเฉพาะคนที่เลือดออกง่าย โดยรอยฟกช้ำจะหายภายใน 2 อาทิตย์โดยประมาณ ซึ่งระหว่างนี้สามารถแต่งหน้าเมคอัพช่วยอำพรางได้
    ข้อแนะนำ ยาหรืออาหารเสริมบางชนิดจะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดรอยฟกช้ำ ยกตัวอย่างเช่น ยาแก้ปวดแอสไพริน หรือยาต้านการอักเสบ เช่น NSAID (Diclofenac หรือที่เรารู้จักกันคือ Voltaren และอื่นๆ) ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น Warfarin อาหารเสริมบางชนิดเช่น Gingko (แป๊ะก้วย ), Omega3 (Fish oil, Krill oil) Green tea extract , Vitamin D, Vitamin E และ Astaxanthin ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงก่อนเข้ารับการรักษาล่วงหน้า 1 อาทิตย์
  3. การใช้ลำแสงเลเซอร์เพื่อยกกระชับ หลักการทำงานของ เลเซอร์คือช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวหนัง นอกจากนี้บางชนิดยังสามารถทำการลอกเซลล์ผิวชั้นบนเพื่อให้มีการผลัดเซลล์ผิว เก่าและสร้างผิวใหม่ หรือบางชนิดที่คลื่นความถี่มีพลังอานุภาพเฉพาะเจาะจง สามารถลงลึกไปถึงชั้นไขมันและชั้น SMAS (ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อบางๆระหว่างชั้นไขมันและกล้ามเนื้อ) ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยร่วมด้วย ทำให้หน้าดูเรียวและกระชับขึ้น 
    • โปรแกรม Aramis Laser  
      เหมาะสำหรับ ทุกสภาพผิว ผู้ที่เริ่มมีปัญหาริ้วรอยบางๆ ผิวไม่กระชับ  หรือผู้ที่ต้องการรักษาให้ใบหน้าดู่อ่อนเยาว์
      จุดเด่น เป็นเทคโนโลยีแสงเย็นทำ ทำให้รู้สึกเย็นสบายขณะทำ โดยลำแสงสามารถลงไปกระตุ้นเซลล์ให้ผลิตคอลลาเจนใหม่ทดแทนคอลลาเจนเดิมที่สูญ เสียไปตามธรรมชาติ ทำให้ผิวหน้านุ่มขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น ริ้วรอยลดลง หน้าใสขึ้น กระชับขึ้น และยังช่วยลดการอักเสบของสิวอีกด้วย หลังทำสามารถแต่งหน้าไปทำงานตามปกติได้ทันที
      ข้อแนะนำ ควรทำหลายครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ดี และเพื่อเป็นการคงความอ่อนเยาว์ แนะนำให้รักษาอย่างต่อเนื่องตลอดไปทุก 3-4 เดือน (ถ้าสาวๆคนไหนใจร้อนอยากหน้าเด้งทันที อาจต้องใช้เทคนิคอื่นร่วมด้วย)
    • โปรแกรม Fine scan 
      เหมาะสำหรับ  ผู้ที่มีริ้วรอยตื้นๆ หรือรอยย่นโดยเฉพาะรอบดวงตา ผิวหนังเริ่มหยาบกร้านไม่เรียบเนียน
      จุดเด่น สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีที่หลังการรักษาครั้งแรก ผิวจะดีขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากกระบวนการสร้างคอลลาเจนและ  อิลาสติน ทำให้เซลล์ผิวใหม่ถูกสร้างขึ้นทันทีและ ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องไปอีก 4-6 สัปดาห์
      ข้อแนะนำ  หลังการรักษาผิวหนังจะอมชมพูคล้ายตากแดดจัดประมาณ 2-3 วัน โดยช่วงแรกเซลล์ผิวเก่ายังไม่ถูกผลัดให้ลอกหลุดออกไปนั้นจะทำให้ผิวหน้าจะมี สีเข้มขึ้น แลดูคล้ำเล็กน้อย ซึ่งเมื่อเซลล์ผิวเก่าหลุดออกใช้เวลา 5-10 วัน ก็จะมีเซลล์ผิวใหม่ที่สวยงามและมีสุขภาพดีขึ้นมาแทนท
    • โปรแกรม Exelo2 (Fractional carbon dioxide laser)
      เหมาะสำหรับ นอกจากจะใช้ในการรักษารอยแผลเป็นจากสิว ผิวขรุขระแล้ว ยังสามารถนำมาช่วยให้ใบหน้ากระชับ ลดเลือนริ้วรอยได้อีกด้วย
      จุดเด่น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้เกิดเนื้อเยื่อเซลล์ผิวใหม่พร้อมเสริมสร้างเซลล์ผิวใหม่ให้แข็งแรงได้ อย่างรวดเร็ว โดยไม่ทำให้เซลล์ผิวข้างเคียงถูกทำลาย จึงมีระยะเวลาพักฟื้นสั้นเพียง 5-7 วัน
      ข้อแนะนำ หลังการรักษา ใบหน้าจะมีสีชมพูเข้มเป็นผลที่เกิดจากความร้อน หลังจากนั้นบริเวณที่รักษาอาจมีสีผิวเข้มขึ้น สีน้ำตาลอ่อน ๆ หรือเกิดสะเก็ดเล็กๆ ซึ่งจะหลุดออกไปภายใน 5-7 วัน หลังการรักษาไม่ควรแกะหรือเกา ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด อยู่ใกล้ไอความร้อน เช่น การอบไอน้ำ หรือซาวน่า ประมาณ 2 เดือน เพื่อป้องกันสีผิวที่เข้มขึ้น หลังจากนั้นสามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติ สามารถมาทำซ้ำได้ทุก 6 – 12 เดือน
    • โปรแกรม Ideal Reshape  
      เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย รูขุมขนกว้าง ใบหน้าหย่อนคล้อย
      จุดเด่น  เป็นเครื่องผสมผสานเทคโนโลยีหลายชนิดไว้ในเครื่องเดียว คือ มีแสงความเข้มข้นสูง แสงอินฟาเรด แสงเลเซอร์ไดโอดร่วมกับคลื่นวิทยุ ทำให้มีโปรแกรมรักษาหลายรูปแบบ อาทิ โปรแกรมทำให้หน้าใสเนียน โปรแกรมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยปัญหาด้านริ้วรอย และรูขุมขน และโปรแกรมสำหรับผิวหย่อนคล้อย
      ข้อแนะนำ  ควรทำต่อเนื่องทุก 6-8 สัปดาห์ อย่างน้อย 3-5 ครั้ง เนื่องจากมีหลายโปรแกรมในการรักษา แนะนำปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเลือกโปรแกรมการรักษาให้เหมาะสมกับปัญหาและสภาพผิวของแต่ละบุคคล

     การดูแลด้วยทรีตเมนต์ 
    สำหรับสาวๆที่เริ่มต้นอยากจะดูแลตัวเอง ไม่อยากทำอะไรกับผิวหน้ามากนัก และต้องการเพียงแค่บำรุงผิวอย่างต่อเนื่อง ทรีตเมนต์จึงเป็นทางออกสำหรับสาวๆกลุ่มนี้
  4. โปรแกรม Beauty Lift
    เหมาะสำหรับ สาวๆที่ยังไม่มีปัญหาผิวมากนัก ต้องการบำรุงให้หน้าใส ผิวกระชับ
    จุดเด่น เป็นทรีตเมนต์ที่ช่วยผลักวิตามินเข้าสู่ใบหน้า พร้อมเพิ่มการไหลเวียนโลหิตบริเวณผิวหน้า และยังช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อใบหน้าให้แข็งแรง กระชับ ได้สัดส่วน จุดเด่นของเครื่องนี้คือ ไม่เจ็บ รู้สึกสบายขณะทำ
  5. โปรแกรม Cell Rejuvenator
    เหมาะสำหรับ สาวๆที่ใบหน้าหมองคล้ำไม่สดใส เริ่มมีริ้วรอยบางๆ หรือหน้าเริ่มหย่อนคล้อยยังไม่มาก
    จุดเด่น  เป็นการทำงานด้วย Signal technology ซึ่งเป็นคลื่นที่เลียนแบบการทำงานของโปรตีนและเซลล์ในร่างกาย เพื่อให้การสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มพลังงานให้กับเซลล์ผิวที่อ่อนล้าให้แข็งแรงขึ้น พร้อมช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต กำจัดอนมูลิสระ ส่งผลให้การขจัดของเสียดีขึ้น เมื่อเซลล์ผิวดีขึ้นจะส่งผลให้ผิวหน้าดูใสขึ้น ป้องกันการเกิดริ้วรอยในระยะยาว 
 
ข้อแนะนำของการทำทรีตเมนต์ 
เพื่อคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้ยาวนาน จำเป็นต้องทำต่อเนื่องหลายครั้ง ถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น 
 
“การวิเคราะห์สภาพผิวและปัญหาเพื่อเลือกประเภทการรักษาให้ เหมาะสมในแต่ละบุคคลเป็นสิ่งสำคัญ จำเป็นต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ควบคู่กันเพื่อให้คนไข้ได้ผลลัพธ์เป็นที่ น่าพึงพอใจ แลดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งนี้แม้วัยจะเป็นตัวกำหนดสภาพผิวพรรณโดยธรรมชาติในระดับหนึ่งแล้ว การใช้ชีวิตก็เป็นอีกปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดด้วยเช่นกัน เพื่อให้ความอ่อนเยาว์อยู่คู่กับคุณได้นานที่สุดจึงควรให้ความสำคัญและดูแล รักษาอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยชะลอวัยให้กับผิวเราได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น